1. พยายามทำงานที่ต้องใช้สมองให้เสร็จก่อนอาหารกลางวัน เพราะคอร์ติโซล ซึ่งเป็นสารเคมีในร่างกาย ที่ช่วยให้มีสมาธิ และมีความตื่นตัว จะอยู่ในระดับสูงสุดของวันตอนก่อนเที่ยง
2. แอบงีบนิดนึง (ถ้าทำได้)การหลับตาแม้เพียง 10 นาที ก็สามารถทำให้เพื่อนๆ สดใสได้นะคะ ถ้าแอบงีบไม่ได้ ก็ออกไปเดินรับอากาศบริสุทธิ์ กระโดดตบซัก 50 ที หรือแปรงฟันด้วยยาสีฟันรสมิ้นท์ซาบซ่า เพราะกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์น่ะ มีส่วนทำให้สดชื่นได้นะคะ
3. พึ่งพาคาเฟอีนซะหน่อย กาแฟเพียง 1 ถ้วย อาจช่วยเร่งเครื่องให้เพื่อนๆ ได้บ้าง แต่ถ้ามากจนเกินไป ก็จะทำให้รู้สึกใจสั่น กระวนกระวายค่ะ เพื่อนๆ คงไม่อยากตาแข็ง ทั้งๆ ที่อยากจะนอนเต็มแก่หรอกนะคะ เก็บกาแฟเอาไว้เวลาที่ง่วงจริงๆ ดีกว่า โดยเฉพาะหลังอาหารกลางวันมื้อใหญ่ค่ะ
4. อย่าทานของหวานแก้ง่วงของหวานทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ แต่ก็แค่ชั่วครู่นะคะ จากนั้นหลังจากระดับน้ำตาลในเลือดก็จะลดต่ำลงจนเพื่อนๆ รู้สึกพร้อมจะทรุดฮวบลงได้ทุกเมื่อ วิธีแก้ไขก็คือ แบ่งทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ซัก 5 - 6 มื้อ และมีส่วนผสมของโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้การเผาผลาญพลังงานสม่ำเสมอตลอดทั้งวันไงคะ และเพื่อจะได้รู้สึกสดชื่น อีกด้วยค่ะ
2. แอบงีบนิดนึง (ถ้าทำได้)การหลับตาแม้เพียง 10 นาที ก็สามารถทำให้เพื่อนๆ สดใสได้นะคะ ถ้าแอบงีบไม่ได้ ก็ออกไปเดินรับอากาศบริสุทธิ์ กระโดดตบซัก 50 ที หรือแปรงฟันด้วยยาสีฟันรสมิ้นท์ซาบซ่า เพราะกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์น่ะ มีส่วนทำให้สดชื่นได้นะคะ
3. พึ่งพาคาเฟอีนซะหน่อย กาแฟเพียง 1 ถ้วย อาจช่วยเร่งเครื่องให้เพื่อนๆ ได้บ้าง แต่ถ้ามากจนเกินไป ก็จะทำให้รู้สึกใจสั่น กระวนกระวายค่ะ เพื่อนๆ คงไม่อยากตาแข็ง ทั้งๆ ที่อยากจะนอนเต็มแก่หรอกนะคะ เก็บกาแฟเอาไว้เวลาที่ง่วงจริงๆ ดีกว่า โดยเฉพาะหลังอาหารกลางวันมื้อใหญ่ค่ะ
4. อย่าทานของหวานแก้ง่วงของหวานทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ แต่ก็แค่ชั่วครู่นะคะ จากนั้นหลังจากระดับน้ำตาลในเลือดก็จะลดต่ำลงจนเพื่อนๆ รู้สึกพร้อมจะทรุดฮวบลงได้ทุกเมื่อ วิธีแก้ไขก็คือ แบ่งทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ซัก 5 - 6 มื้อ และมีส่วนผสมของโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้การเผาผลาญพลังงานสม่ำเสมอตลอดทั้งวันไงคะ และเพื่อจะได้รู้สึกสดชื่น อีกด้วยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น