เล่าสู่กันฟัง : ไอเฟล
นอกจากนี้ได้มารู้ทีหลังว่า Metro ที่นี่มีราคาต่างชาติกับชาวฝรั่งเศสต่างกันคนฝรั่งเศส จะซื้อได้ในราคา 5 ยูโร ต่างชาติซื้อได้ 8 ยูโร วันแรกจ่าย 5 ยูโรเพราะเพื่อนเป็นคนซื้อให้มาวันที่ 2ไปซื้อกับเพื่อนญี่ปุ่นบอกว่า เอาแบบเดิมเขาไม่ยอมขายให้ก็เลยต้องจ่าย 8 ยูโรเพื่อจะไปชมพระราชวังแวร์ซาย กลางวันก็เที่ยวชมสถานที่ต่างๆในเมืองปารีสตกเย็นก็ไปหอไอเฟล
หอไอเฟลนี้ trickyจริง ด้วยความที่สูงมากจึงมองเห็นได้แต่ไกลมองเผินๆนึกว่าไม่ไกล ถามคนแล้วเขาบอกว่า Behind the Building ก็เห็นตึกอยู่แค่เนี้ยที่ไหนได้ไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักทีรู้งี้นั่งรถมาก็ดีมาถึงหอไอเฟล สามารถขึ้นลิฟท์ขึ้นไปถึงบนยอดได้หรือส่วนใหญ่จะไปแค่ชั้นสองคิวยาวเหยียดตามเคยส่วนใหญ่จะเป็นคนจาก รถบัสก็เลยเดินผ่านไปเฉยๆมองใกล้ๆไม่สวยเพราะมีโครงเหล็กต้องมองจากไกลๆจะดีกว่าแล้วก็ไปไกลมากด้วย จึงจะได้ภาพที่สวยงามของหอไอเฟล
รออยู่หวังที่จะได้ภาพสวยยามค่ำที่มีแสงไฟสวยงามของไอเฟลเหมือนในโปสการ์ด แต่อากาศไม่เป็นใจมีฝนตกบ้างเลยไม่ยอมมืดซะทีขึ้นไปถึงจุดชมวิวของหอไอเฟลเป็นระเบียงกว้างผู้คนยืนนั่งพักผ่อนกันตาม อัธยาศัยแต่ระยะทางมาจุดชมวิวจากฐานไอเฟลถ้าเดินขอเน้นว่า….ไกล หลังจากอิ่มหนำสำราญกับบรรยากาศรอบตัวที่นี่มองหา เมโทรไม่หลวมตัวเดินแล้วเห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งผ่านมาเลยถามไปว่า Hey ! do you know where the metro is ? เขาไม่รู้อีกคนในกลุ่มตอบ Do you know where Macdonal is ? เลยอ๋อ…กลุ่มนี้เป็นเด็กอเมริกันนั่นเอง
ขากลับแวะซื้ออโวคาโด จากแผงผลไม้ในทางเชื่อมรถไฟใต้ดินราคาไม่แพง 3 ลูก 2 ยูโรเนื้อดีอร่อยด้วยชอบจริงๆนึกถึงตอนไปฮาวายเก็บมาจากต้นเลยครั้งไปเยี่ยมบ้านเพื่อน รับประทานเป็นอาหารมื้อเย็น 1ลูก เก็บไว้เช้า 1 ลูก ยกให้Yoko กับ Tomoya 1 ลูก ตื่นเต้นใหญ่ไม่เคยเห็นอโวคาโดทั้งผลที่ญี่ปุ่นเขาต้องนำเข้าเหมือนกันและราคาแพงและเพิ่งรู้ว่าอโวคาโดเป็นผักไม่ใช่ผลไม้นะ เมืองไทยเข้าใจว่าปลูกได้แล้วทางเหนือ เพื่อนสงเคราะห์มีดพกแบบ Navy Swiss ผ่าและปอกอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น